หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จดหมายถึงศรี บูรพา(กุหลาบ สายประดิษฐ์)


กราบสวัสดี ท่านศรีบูรพา                                  

     
 เพชรมีค่ามหาศาล
มีคนต้องการมากมาย
แต่ให้ประโยชน์คนอื่นไม่ได้
ก็จะไม่ต่างกับก้อนหินก้อนหนึ่ง

         ศรี บูรพา หรือ กุหลาบ สายประดิษฐ์ เมื่อได้ยินชื่อนี้ เราก็จะนึกถึงภาพผู้ชายใส่แว่นที่ค่อยต่อสู้เรื่องของสื่อเพื่อความมีอิสระ    

         แม้ว่าท่านจะจากโลกใบนี้ไปนานหลายปีแล้ว แต่ชื่อและผลงานของท่านก็ยังจดจำอยู่ในหัวใจของนักสื่อสารมวลชนไม่เคยลืมเลืองหายไปนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะท่านเป็นบุคคลคนหนึ่งที่สำคัญในวงการสื่อ เป็นเสมือนไฟที่ค่อยส่องทางและผลักดันสื่อให้เดินถูกทางในทางที่ถูกต้อง ไม่ตกรางหรือตกอยู่ในมือของคนมีอำนาจที่ใช้ในทางที่ผิด เพราะถือว่า เมื่อสื่อขาดอิสระ สื่อก็จะไร้ค่า ไม่สามารถทำหน้าที่สื่อได้เต็มตัว นั้นก็คือ เป็นกระบอกเสียงของประชาชน

        แม้ผมจะเกิดไม่ทัน ไม่ใช่คนในยุคสมัยของท่าน แต่ผมเป็นนักศึกษาที่ศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสาร ทำให้ผมได้รู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการสื่อสารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิธีการทำสื่อ การส่งสาร หน้าที่ของสื่อ เป็นต้น แต่ไม่ใช่แค่นั้น ผมยังได้รู้ประวัติบุคคลสำคัญๆหลายคนที่เป็นนักสื่อสารมวลชนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมไปถึงท่านด้วย

        ท่านเป็นทั้งนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนชั้นเอกด้วย วรรณกรรมหลายชิ้นหลายงานของท่านเป็นที่ยอมรับจากคนมากมาย เช่น แลไปข้างหน้า ข้างหลังภาพ ลูกผู้ชาย ป่าในชีวิต สงครามชีวิต เป็นต้น ล้วนเป็นวรรณกรรมชิ้นเอก แต่ละเรื่องมีการเขียนประโยคขึ้นมาด้วยถ้อยคำที่สละสลวย ไม่พาฝันจนขาดเหตุขาดผล ประกอบกับท่านเคยเรียนรู้มาทางด้านกฎหมาย งานเขียนของท่านจึงดูหนักแน่นรัดกุม ทั้งยังเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่คนในสังคม ทั้งเรื่องของสิทธิเสรีภาพ  สิทธิมนุษยชน ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งทำให้เราเกิดความรู้และข้อคิดต่างๆที่ใช้ผ่านทางคำพูดของตัวละคร ในบางบทของบางเรื่อง เช่น เธออย่าเข้าใจว่า สิ่งที่กฎหมายบัญญัติไว้จะเป็นความถูกต้องชอบธรรมไปทั้งหมด สิ่งใดที่กฎหมายบัญญัติไว้นั้นพลเมืองทุกคนถูกบังคับให้ทำตาม แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องชอบธรรม ใครบัญญัติกฎหมาย คนนั้นก็มักบัญญัติเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัว” “ในชีวิตของผม ผมจะอยู่ข้างสามัญชนตลอดไป เพราะว่ามนุษย์ในโลกนี้แทบทั้งหมดก็เป็นคนธรรมดาสามัญอย่างผมทั้งนั้น และจะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นเสียอย่างหนึ่ง จะเป็นอะไรมิใช่เป็นปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่าจงเป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม เป็นต้น

         นอกจากนั้น ท่านยังค่อยให้เราตระหนักถึงหน้าที่ของการเป็นนักศึกษาอีกด้วยว่า มหาวิทยาลัยไม่ใช้ประสาทวิชาความรู้ในทางการประกอบอาชีพแก่เขาเท่านั้น หากมหาวิทยาลัยได้สอนให้เขาได้เข้าใจในระบอบการปกครองของประชาธิปไตย และทฤษฎีต่าง ๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ และการเมือง......ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยสอนให้เขารู้จักคุณค่าของประชาธิปไตย ซึ่งนำไปสู่ความรักและพร้อมที่จะพิทักษ์รักษามันไว้……เขาได้ตระหนักถึงจิตใจใหม่ที่ถูกมหาวิทยาลัยหล่อหลอมให้เขาเป็นคนตระหนักในความดีงาม และยังนำความภาคภูมิใจถึงการดำเนินวิถีชีวิตที่ถูกต้อง

        ท่านได้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อต่อสู้กับอำนาจอันไม่ชอบธรรมที่คอยกดขี่ข่มเหงสิทธิเสรีภาพของมนุษยชน โดยอาวุธของท่านคือ ปากกา ที่ใช้คำแบบไม่กลัวกับปัญหาที่จะต้องเผชิญหน้า เพราะท่านเคยโดนจับเข้าคุกหลายครั้ง แต่หัวใจนักสู้ของท่านไม่เคยลดเลือนแม้แต่นิดเดียวจนถึงวินาที่สุดท้าย

        จากความกล้าหาญ ความอดทนของท่านสามารถเอาเป็นแบบอย่างในการก้าวเดินในการใช้ชีวิตแก่ผมคนในปัจจุบันนี้ เพื่อให้การดำรงชีวิตไปสู่ความสำเร็จ

       ศรี บูรพา ดุจดังไฟส่องสว่าง
ค่อยนำทางให้สื่อดีมีคุณธรรม
ถือประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ
ค่อยผลักดันไม่ให้สื่อเป็นเครื่องมือ
       สักกี่คนที่กล้าทำอย่างท่าน
ทำทุกทางเพื่อสื่อมีอิสระ
แม้ชีพตนก็ไม่หวั่นพร้อมที่สละ
เพื่อเอาชนะสิ่งอธรรมครอบงำสื่อ


วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การหนังสือพิมพ์ของฉัน(กุหลาบ สายประดิษฐ์)


ข้อคิด แรงบันดาลใจที่ได้จาก การหนังสือพิมพ์ของฉัน(กุหลาบ สายประดิษฐ์)
        สื่อ คือ กระบอกเสียงประชาชน แต่เมื่อใดสื่อเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ประชาชนธรรมดาอย่างเราคือคนที่ต้องแบกรับปัญหาที่เกิดขึ้น
        สื่อเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่อทุกสิ่งทุกอย่างและทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือคณะผู้บริหารประเทศ เพราะสื่อเปรียบเสมือนกระจกๆบานหนึ่งที่ค่อยสอดส่องและแก้ไขตักเตือน เพื่อให้เกิดผลดีที่เป็นประโยชน์และสามารถเดินหน้าต่อไปสู่ความสำเร็จ
        กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นนักหนังสื่อพิมพ์และได้ให้ความสำคัญมากกับเสรีภาพของหนังสื่อพิมพ์ เพราะเขาเชื่อว่าการมีอิสรเสรีภาพนั้นให้คุณค่ามากมายต่อทุกฝ่าย แม้จะเกิดผลกระทบกระเทือนกับบางกลุ่มหรือบางฝ่าย ดังที่เขาได้กล่าวไว้ว่า จงพอใจในการการกินยาขมเถิด เพราะมันจะตอบแทนด้วยการป้องกันท่านมิให้ตกไปในความเมาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยย่อมแพ้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เสมือนหนามค่อยตอกเท้าเขาอยู่ตลอกเวลาที่กำลังเดินบนเส้นทางนี้
        กว่าเขาจะได้รับรางวัลชัยชนะที่เรียกว่าอิสรเสรีภาพของหนังสื่อพิมพ์จนถึงปัจจุบันนี้ เขาพยายามต่อสู่กับปัญหาต่างๆที่เจอะเจอ ไม่ว่าจะเป็นการโดนข่มขู่ โดนจับในหลายๆครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะวางมือหรือยอมแพ้ เขายังยืนยัดในจุดยืนของตัวเองโดยไม่สนใจกับอุปสรรคที่กำลังเกิดขึ้นและกำลังจะต้องเผชิญในอนาคต จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จตามที่ใจได้วางไว้
        แต่ในปัจจุบันนี้จะมีสักกี่คนที่กล้าเดินตามร้อยเท้าของบุคคลคนนี้ ที่มีจิตใจอาสาอุทิศและเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั้งชีวิตของตนเอง เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนธรรมดา เพราะคนในปัจจุบันนี้ต่างคนต่างแข่งขันกันขึ้นมาจะเป็นใหญ่ในสังคม โดยไม่สนใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ ขอให้ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายแม้จะอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น
        นักหนังสื่อพิมพ์และสื่ออื่นๆในปัจจุบันนี้มีมาก และคนส่วนมากก็ยอมขายความอิสรเสรีของตนหรือของกลุ่มตัวเองให้กับกลุ่มต่างๆ เพื่อแลกกับความต้องการของตัวเอง สนองความโลภที่เกิดจากใจ โดยไม่คิดคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนที่กำลังจะเกิดในอนาคตข้างหน้า จนทำให้ปัจจุบันนี้ได้เกิดปัญหามากมายตามมา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สังคมไทยปัจจุบันนี้มีเรื่องวุ้นวายเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ก็เพราะว่าสื่อวางตัวไม่เป็นกลาง เอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง โดยใช้ข้ออ้างอย่างดื้อๆว่า ทำไปเพื่อความอยู่รอด ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เนื่องจากเงินหรือสิ่งที่ต้องการคือสิ่งที่สำคัญและสิ่งจำเป็นต่อธุรกิจสื่อ
        เมื่อเกิดเหตุการณ์ๆหนึ่งขึ้นมา แล้วผู้สนับสนุนธุรกิจสื่อเป็นผู้กระทำหรือเป็นฝ่ายผิด สื่อก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องยอมปล่อยทำเป็นไม่สนใจ ไม่รู้เรื่องหรือเสนอข่าวออกสู่ประชาชนในแง่ดี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ เพราะกลัวว่าจะเสียผลประโยชน์ที่ได้รับการสนับสนุน จนกลายเป็นปัญหาลูกโซ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จากเหตุการณ์ๆหนึ่งก็กลายเป็นสอง เป็นสาม เกิดความไม่กลัวในความผิดที่ได้สร้างขึ้นมา เนื่องจากจะมีคนที่คอยทำหน้าที่แก้ข่าวให้เขา จนกลายเป็นธุรกิจทั้งสองฝ่ายที่คอยช่วยเหลือกันไปมา แม้จะเป็นในเรื่องที่ผิด
        เรื่องอิทธิพลก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหา เพราะคนส่วนมากที่ทำงานสื่อจะต้องอยู่ภายใต้หรือถูกควบคุมโดยกลุ่มคนที่มีอิทธิพล ต้องทำตามกฎที่ผู้ทีอิทธิพลได้วางไว้ เนื่องจากกลัวกับปัญหาที่จะต้องเผชิญ ถ้าไม่ทำตาม โดยเฉพาะปัญหาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่คนส่วนมากที่ทำงานสื่อจะรู้ความจริง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่มั่นใจกับความปลอดภัยของตนหรือไม่ก็โดนผู้ที่อยู่เบื้องบนคัดขว้างทางในการนำเสนอข้อมูล จนทำให้ไม่กล้าจะเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงนั้นออกไป ซึ่งจะแตกต่างกันมากกับคนในอดีตก่อนที่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ เพราะเขามีความคิดว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนสมัยนี้กลับไปต่อท้ายประโยคนั้นอีกว่า แต่จะตายเพราะความจริงเลยทำให้ประโยคนั้นกลายเป็น ความจริงเป็นสิ่งตาย แต่จะตายเพราะความจริง จนทำให้คนสมัยนี้ไม่มีความกล้าในเรื่องที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องและลืมคิดไปว่า เมื่อสื่อไม่ทำตัวให้เป็นกลาง แล้วจะทำหน้าที่ไปเพื่ออะไร
        ในเมื่อสื่อที่มีรับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชนได้เลือกข้างเพื่อการอยู่รอดของตน ผลกระทบหรือปัญหาที่เกิดขึ้นก็ตกอยู่ที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย มีการเสนอข่าวที่ไม่เป็นความจริง ประชาชนเกิดความสับสน วุ้นวาย หลงใหลไปตามข่าว ไม่มีที่จะยึดติดที่จะเป็นตัวกลางทำหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือชี้แจงความเป็นจริง จนนำไปสู่ความเสียหายและสูญเสียที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน
        ในเมื่อตอนนี้เราเป็นนักศึกษาวิทยาการสื่อสาร ที่ศึกษาด้านสื่อต่างๆ เป็นปัญญาชนที่มีความคิด เราควรเอาแบบอย่างๆ คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีคนหนึ่งมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะทำงานเกี่ยวกับสื่อ เราไม่ควรมองข้ามปัญหาในเรื่องนี้ เพราะเราได้รู้ถึงความหมายและความสำคัญของคำว่า สื่อว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน และอยากฝากบอกว่า
จงอย่ากลัวที่จะทำความดี เพราะจะมีพระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แนวคิดจากthe social network

แนวคิดที่ได้จากภาพยนตร์ The social network
        ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนมีสองด้าน ทั้งด้านดีที่เป็นประโยชน์และด้านไม่ดีที่เป็นโทษ แต่จะเกิดผลดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับผู้ควบคุมหรือผู้ที่ใช้
       ภาพยนตร์ The social network ก็เป็นภาพยนตร์หนึ่งที่มีคุณภาพ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้แง่คิดดีๆมากมายต่อผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหา การเป็นอยู่ในสังคม การให้ความสำคัญและการใช้ประโยชน์กับสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเอง เป็นต้น
      เรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มจากการเจาะระบบของมหาลัยของพระเอกกับกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่ง เพื่อเอารูปสาวๆมาประชันความสวย โดยให้ผู้เล่นทั่วไปเป็นคนเลือกตามที่ใจชอบ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านที่ไม่เห็นด้วยของกลุ่มนักศึกษาสาว การโดนดำเนินคดีในเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว จนนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกลุ่มจนแตกแยก โดยเฉพาะเรื่องของผลประโยชน์ มีการฟ้องร้อง แต่ในที่สุดพระเอกก็สามารถต่อสู้กับปัญหาต่างๆจนชนะและประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมา คือ เฟสบุ๊กที่มีคนใช้ทั่วโลกจนถึงวันนี้
      ข้อคิดจากเรื่องนี้ คือ การทำอะไรสักอย่างกว่าจะประสบความสำเร็จ ย่อมจะต้องเผชิญกับปัญหาและไม่สามารถหนีได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่การเอาชนะปัญหา ถ้าเราไม่สู้ ยอมแพ้ต่อปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะไม่เกิดผลสำเร็จตามที่เราตั้งใจไว้ตอนแรก เหมือนกับที่เกิดปัญหากับพระเอก เขาต่อสู้อย่างเข้มแข็ง ไม่ย่อมแพ้ จนในที่สุดก็เกิดเฟสบุ๊ก
    การเป็นอยู่ในสังคม จากคำที่ว่าสองคนก็สองอย่าง ดังนั้นเมื่อเราอยู่กับคนอื่น เราควรให้ความสำคัญ ควรเอาใจใส่หรือเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่มองข้ามสิ่งเล็กๆ เพราะบางที่สิ่งเล็กๆนั้นอาจมีความสำคัญหรือความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อเราก็ได้ แต่เมื่อเราทำเป็นมองข้ามเหมือนกับสิ่งที่ไม่มีค่า วันหนึ่งคงอาจจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำไป เหมือนที่พระเอกไม่ให้ความสำคัญกับเพื่อนคนหนึ่ง จนทำให้ต้องเสียเพื่อนไป
      ซึ่งข้อดีในภาพยนตร์เรื่องนี้มีอีกมากมายที่เราสามารถเอามาใช้หรือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ เพื่อจะให้การดำเนินชีวิตของเราในทุกๆวันที่ดีแล้วนั้นดีกว่าเดิมไปอีก เมื่อเราเริ่มทำดีจากที่ตัวเราก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆก็จะดีตาม แถวยังช่วยลดปัญหาต่างๆได้อีกด้วย
ทำให้สังคมน่าอยู่ ผู้คนก็มีความสุข

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สื่อใหม่

สื่อใหม่ จากการที่ได้ชมเรื่องการเอาสื่อใหม่มาใช้ในการสื่อสาร เรามีทัศนคติอย่างไรกับสื่อใหม่ เราสามารถนำสื่อใหม่มาใช้อย่างไรบ้างในช่วงที่เกิดปัญหา
          มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ประโยคๆหนึ่งที่คนเราทุกคนส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยิน และประโยคนี้ยังเป็นสิ่งที่สามารถนำไปอธิบายถึงการเป็นอยู่ของมนุษย์ได้ ตั้งแต่อดีตก่อนถึงปัจจุบัน ในเมื่อมนุษย์เป็นสัตว์สังคม การสื่อสารย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะต้องใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อ การพูดคุย เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับรู้แต่ในยุคปัจจุบันนี้กระบวนการการสื่อสารก็ได้มีการเปลียนแปลง เพิ่มเติม ซึ่งแตกต่างไปจากสมัยก่อนมาก เพื่อให้เท่าทันกับการเปลียนแปลงการเป็นอยู่ของคนในยุคนี้และมีประสิทธิภาพในการสื่อสารมากขึ้น เช่น สื่อใหม่ เป็นต้น
          สื่อใหม่ หมายถึง การรวมตัวของสื่อมวลชนหรือการรวบรวมเอาข้อมูลจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต เป็นต้น แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการสร้างข้อมูลชิ้นใหม่ขึ้นมา เพื่อที่จะอธิบายแบบง่ายๆ และเกิดความเข้าใจต่อผู้รับสาร ก่อนจะนำเสนออกไปสู่ประชาชนในสังคม โดยมีอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อ ซึ่งเป็นผลงานที่รวมจากสื่อกับเทคโนโลยี เช่น วิดีโอของกลุ่มรู้สู้floods หรือ กูกู้floods ที่ทำสื่อเกี่ยวกับนำ้ท่วมเป็นตัวการ์ตูนและเข้าใจได้ง่ายในข้อมูลที่นำเสนอ
           สื่อใหม่ เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์และประสิทธิภาพมากในการเสนอข้อมูลข่าวสาร สื่อใหม่จะไม่ค่อยเน้นไปที่ข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือมากเท่าไร แต่เน้นการทำให้เห็นภาพที่เป็นตัวการ์ตูน กราฟ หรือแบบอื่นๆมากกว่า เพราะคนเราส่วนมากจะไม่ค่อยชอบอ่านเท่าไร โดยเฉพาะที่มีตัวหนังสือที่เต็มไปหมด สื่อใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ดี เหมาะสำหรับเป็นช่องทางในการเลือกรับรู้ข่าวสารทุกประเภท ซึ่งรวมถึงเด็กเล็กๆที่ชอบดูการ์ตูน เนื่องจากข้อมูลไม่จำเป็นที่ต้องเป็นเนื้อหาทั้งหมด แต่ทำอย่างไรให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจมากที่สุด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการนำเสนอของกลุ่มรู้สู้floodfและกูกู้loodที่มีคนทั่วไปในสังคมให้ความสนใจมากกับข่าวเกี่ยวกับนำ้ท่วม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้าน เมื่อมีด้านดีก็ต้องมีด้ายเสียไม่มากก็น้อย และด้านเสียของสื่อใหม่ คือ จะเน้นการนำเสนอบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนมาก ทำให้บางคนไม่สามารถเข้าไปถึงไม่ได้และข้อมูลก็ไม่กระจายในสื่อต่างๆ ทำให้ข้อมูลไม่ทั่วถึง
         ในปัญหาต่างๆเราก็สามารถนำ เช่น ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราก็ทำเป็นตารางของแต่ละปี นับตั้งแต่เหตุการณ์เริ่มระอุขึ้นในปี2547จนถึงปัจจุบันว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่ไหนบ้าง กี่ครั้ง มีผู้เสียชีวิตกี่คน สูญหายเท่าไร บาดเจ็บกี่คน เป็นชาวบ้านและหน่วยงานรัฐเท่าไร เป็นต้น เราก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจน ไม่สับสน ดีกว่าไปอ่านข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือ อ่านสองสามกว่าจะเข้าใจ

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รายอที่เงียบเหงา


รายอที่เงียบเหงา
      เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสเหมือนปกติ แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงฤดูฝน เด็กๆตื้นขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าพร้อมรอยยิ้มจากความดีใจที่ได้ใส่ชุดใหม่ที่พ่อแม่ซื้อให้ เพราะวันนี้เป็นวันรายอหรือฮารีรายอ ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองของศาสนาอิสลาม วันรายอจะมีทั้งหมดสองครั้งในหนึ่งปี รายอครั้งแรกจะเป็นรายอหลังจากการเสร็จสิ้นการถือศิลอด ชื่อว่ารายออีดิลฟิตรีหรือที่รู้จักกันคือ รายอปอซอ ซึ่งมาจากคำว่าถือศิลอด ที่มีความหมายว่าปอซอ รายอครั้งที่สองเป็นรายอฮายีหรือรายอกุรบาน คำว่ากุรบานหมายถึงเชือดสัตว์ ซึ่งมีชื่อที่เป็นทางการว่ารายออีดิลอัฎฮา
      แม้วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความเงียบเหงาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนน่าใจหายเสียงดังมาจากอีกมุมหนึ่งพร้อมกับร่างของชายคนหนึ่งที่กำลังก้าวออกมา สีหน้าดูเศร้าๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เลยอดใจไม่ได้ที่จะถามถึงสาเหตุของความเศร้า จนสุดท้ายก็ได้รู้ที่มาเพราะอะไร
      กูจิงลือปะ เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ติดกับหมู่บ้านของผม และอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ม.3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
      เมื่อวันที่19 พ.ค.2549 ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในหมู่บ้านกูจิงลือปะ เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มทหาร เพราะได้เกิดเหตุการณ์การฆ่าครู คือ ครูจูหลิง จนทำให้เสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นมาความโหดร้ายและความเงียบเหงาที่หว่าเหว่ก็เริ่มเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้
      ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นเป็นเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ความจริง มีไม่กี่คนที่รู้และบางคนก็โดนเก็บเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านได้ ทั้งที่เป็นบ้านเกิดของตนเองและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เลย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นและกำลังเกิดขึ้นย่อมหนีสายตาของคนไม่ได้ ต้องมีคนรู้
     ใครจะทำอะไรก็ได้กับคนในหมู่บ้านกูจิงลือปะ เพราะไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีใครสนใจและไม่มีใครกล้าดำเนินเรื่องหรือฟ้องร้อง ผมถึงกับสะดุ้งตกใจที่ได้ยินประโยคๆนี้ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อ แต่เราต้องยอมรับ เพราะเป็นความจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้วและยังจะเกิดขึ้นอีก จนไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร เหมือนกับว่าหมู่บ้านนี้ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายและคล้ายหมู่บ้านร้าง
      ได้เกิดเหตุการณ์หลายครั้งกับชาวบ้านหลังจากเหตุการณ์ฆ่าครูจูหลิน ทั้งคนในหมู่บ้านกูจิงลือปะเองและชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านนั้น แต่ไม่มีการนำเสนอออกทางสื่อ ซึ่งกลายเป็นจุดที่น่าคิดและสามารถนำไปเชื่อมโยงกับประโยคที่ทำให้สะดุ้ง
      จนถึงวันนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านกูจิงลือปะและหมู่บ้านใกล้เคียงยังต้องฟื้นทนและจำใจกับเหตุการณ์คล้ายกับลักษณะนี้ต่อไป แม้จะไม่มีความสุขไม่สามารถอยู่อย่างปกติได้ เพราะจะทำอะไรไม่ได้เหมือนกับว่าถูกตราหน้าจากสังคมภายนอกว่าเป็นคนร้ายทั้งหมู่บ้านจากการนำเสนอของสื่อบางสื่อ
      ดูจากวันนี้ ซึ่งเป็นวันรายอที่ผู้คนทั่วโลกมีการเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข สนุกสนาน แต่อีกมุมหนึ่งที่คนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งตารอและหวังแค่อยากให้ความอยุติธรรมออกไปจากหมู่บ้านเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด